菩多佛教文物2館-神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟象神泰文介紹
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟10.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟11.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟12.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟13.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟14.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟2.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟3.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟4.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟5.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟6.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟7.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟8.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟9.jpg
神幕巴甘省沙拉悶帕巴鍊中國城隍廟象神泰文介紹
ปัจจุบันศาลประจำเมือง หรือศาลหลักเมืองนี้ อยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอ พระประแดง ภายในมีรูปหล่อพระพิฆเนศร์ เป็นที่สักการะของประชาชนทั่วไป คนจีนได้เข้ามาดูแลศาลหลักเมืองแห่งนี้เมื่อใดไม่ปรากฏ ดังนั้น สภาพสิ่งก่อสร้างและบรรยากาศของศาลหลักเมืองจึงเป็นแบบจีน จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
สิ่งที่น่าสนใจศึกษาและเรียนรู้
ตามโบราณราชประเพณี ในการสร้างเมืองมักจะมีการสร้างศาลหลักเมืองไว้เป็นศาลกลางของบ้านเมือง ดังนั้นศาลหลักเมืองจะถือเป็นศูนย์กลางทางจิตใจของบ้านของเมือง ซึ่งเมืองที่จะมีศาลหลักเมือง มักจะเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ และจัดตั้งตามโบราณราชประเพณี ดังนั้นศาลหลักเมืองของเมืองนครเขื่อนขันธ์ หรืออำเภอพระประแดง จึงสะท้อนให้เห็นว่าเมืองนี้ เป็นเมืองที่เก่าแก่ และได้จัดตั้งตามโบราณราชประเพณี
สถานที่ตั้ง
เทศบาลเมืองพระประแดง ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ขออนุญาตินำข้อมูลที่เคยเรียบเรียงไว้ เมื่อครั้งเทศกาลคเณศจตุรถี พ.ศ.๒๕๕๒ มาช่วยเสริมครับ
**************************** ศาลพระคเณศ (เจ้าพ่อหลักเมือง) พระประแดง
.
.
. ศาล พระคเณศ หรือเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง ตั้งอยู่ที่เทศบาลเมืองพระประแดง ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๕๘ โดยสร้างเป็นศาลประจำเมือง และได้ประกอบพิธีฝังอาถรรพ์เสาหลักเมือง เมื่อวันศุกร์ เดือน ๗ แรม ๑๐ ค่ำ ปีกุน พ.ศ. ๒๓๕๘ นับว่าเป็นพระคเณศองค์เดียวที่มีฐานะเป็นหลักบ้านใจเมืองด้วย
.
. . (บุษบกที่ประดิษฐานพระคเณศหรือเจ้าพ่อหลักเมืองของชาวพระประแดง)
.
. . ลักษณะ ของศาลในปัจุบัน (เนื่องจากศาลแห่งนี้มีการปรับปรุงและบูรณะหลายครั้ง) มีการผสมผสานศิลปะหลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน และมอญ ที่สะท้อนให้เห็นจากลวดลายและสิ่งของที่ประดับตกแต่งศาล แต่ถ้าท่านที่เคยไปจะเห็นว่า ศาลแห่งนี้จะมีลักษณะที่ค่อนไปทางศาลเจ้าของจีน เพราะปัจจุบันผู้ดูแลศาลแห่งนี้เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนนั่นเอง
.
. . (เทวรูปพระคเณศประจำศาลหลักเมืองพระประแดง)
.
. . พระ คเณศประจำศาลหลักเมืองพระประแดงองค์นี้ ประดิษฐานอยู่ภายในบุษบกแบบไทย มีลักษณะเป็นพระคเณศศิลา มีสี่พระกร พระกรขวาบนถือตรีศูล พระกรซ้ายบนถือปาศะ (บ่วงบาศ) พระกรขวาล่างถืองา และพระกรซ้ายล่างถือถ้วยขนม ประทับนั่งบนฐานบัวหงาย โดยพระคเณศองค์นี้งดงามด้วยความเรียบง่าย เนื่องจากที่องค์เทวรูปแทบจะไม่มีลวดลายเครื่องประดับใดๆ แม้กระทั่งเครื่องศิราภรณ์.
. . (ความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความงามและน่าเกรงขาม)
.
. . ศาล เจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง ได้รับยกย่องให้เป็นศาลพระคเณศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และหลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไมพระคเณศองค์ดังกล่าวจึงมีฐานะและได้รับการนับถือให้เป็นเจ้าพ่อหลัก เมือง ทั้งๆทีเวลาที่เราไปศาลแห่งนี้ จึงไม่เห็นเสาหลักเมืองเหมือนกับศาลหลักเมืองแห่งอื่นๆ เรื่องนี้ในความเป็นจริงแล้วองค์พระคเณศที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของเสาหลักเมือง โดยตัวเสาจริงๆนั้นอยู่ลึกลงไปทางด้านล่างของศาล มีลักษณะเป็นเสาก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่มจตุรัส และทาด้วยสีแดง จึงอาจอนุมานได้ว่า พระคเณศองค์นี้ก็คือส่วนหนึ่งของเสาหลักเมืองพระประแดงนั่นเอง ซึ่งน้อยคนจะมีโอกาสได้ลงไปถึงด้านล่างอันเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของ พระประแดงจริงๆ
.
. . (เสาหลักเมืองพระประแดงที่อยู่ลึกลงไปด้านล่างของศาลแห่งนี้)
.
.
.
พระ คเณศแห่งศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง ถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของทั้งชาวพระประแดงและผู้คนที่เคารพศรัทธาในองค์พระ คเณศ แม้ปัจจุบันตัวศาลจะตั้งอยู่ลึกเข้าไปในตลาดพระประแดง แต่ก็มีผู้ศรัทธาเดินทางไปสักการะอย่างไม่ขาดสาย แม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม ศาลแห่งนี้ก็ยังคงเป็นทั้งหลักบ้านใจเมือง และเป็นหลักทางจิตวิญญาณของชาวพระประแดงอย่างไม่มีเสื่อมคลาย
|
||
|
การ เดินทางไปยังศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดง (จุดสังเกตที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณตลาดพระประแดงติดกับที่ว่าการอำเภอ พระประแดง) มีรถโดยสารประจำทางที่ผ่าน ได้แก่ สาย สาย ๖, สาย ๘๒, สาย ๕๐๖, ปอ.๑๓๘, ปอ.๑๔๐ ไปลงตลาดพระประแดง แล้วเดินเข้าไปในตลาดประมาณไม่เกินร้อยเมตรก็จะเห็นตัวศาลอยู่ทางด้านซ้าย มือ (ที่ทางเข้าตลาดจะมีป้ายบอกชื่อศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดงอยู่ครับ) หากไปไม่ถูกจริงๆ เมื่อลงรถที่หน้าตลาดแล้วให้ถามทางพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นก็ได้ว่าจะมาที่ศาล เจ้าพ่อหลักเมืองได้อย่างไรครับ
ศาลนี้เป็นศาลหลักเมืองครับ ตั้งอยู่ติดกับที่ว่าการอำเภอ พระประแดง จังหวัด สมุทรปราการ
เดิมทีแถบนี้เรียกว่า นครเขื่อนขันธ์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ( รัชกาลที่ ๑ ) พระองค์ท่าน
มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างเมืองไว้ป้องกันข้าศึกทางทะเล ( ในสมัยนั้นเกรงว่าญวนจะยกทัพมาทาง
ทะเล เพราะตอนที่ ร.๑ ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ไม่นานก็มี องค์เชียงสือ ซึ่งเป็นหลานกษัตริย์
ญวน ได้หนีเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสัมภารอยู่นาน แต่แล้วได้หนีกลับโดยที่มิได้บอกกล่าว ด้วยการล่องเรือ
ออกทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา )
การสร้างเมืองนั้นยังไม่ทันเสร็จ เพียงแต่สร้างป้อมปราการเท่านั้นพระองค์ก็มาสวรรคตเสียก่อน
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ( รัชกาลที่ ๒ ) จึงโปรดให้ พระอนุชาธิราช-
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ไปสร้างเมืองต่อโดยตัดเอาท้องที่แขวงกรุงเทพฯบ้าง ท้องที่แขวง
สมุทรปราการบ้าง รวมกันตั้งขึ้นเป็นเมืองใหม่แล้วพระราชทานชื่อว่า "เมืองนครเขื่อนขันธ์" โปรดให้
ย้ายครัวชาวมอญจากเมืองปทุมธานีบางส่วนมาอยู่ ณ.เมืองนี้ ซึ่งก็มีพระยาเจ่ง(ช้าง)เป็นหัวหน้า
ชาวมอญของพระยาเจ่งนี้มีประมาณ 300 คนเองครับ
คิดดูแล้วตอนนั้นเมืองคงไม่ใหญ่เท่าไหร่ บุตรหลานพระยาเจ่งซึ่งเป็น ต้นตระกูลคชเสนี ได้เป็นเจ้าเมือง
นครเขื่อนขันธ์มาถึงเก้าคน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เปลี่ยนชื่อ
นครเขื่อนขันธ์ เป็นจังหวัดพระประแดง ในพระราชพงศาวดาร รัชกาลที่ 2 พระนิพนธ์ของ กรมพระยา-
ดำรงราชานุภาพกล่าวไว้ว่า "การสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์สำเร็จ ได้ตั้งพิธีฝัง อาถรรพ์ปักหลักเมือง ณ
วันศุกร์ เดือน 7 แรม 10 ปีกุน สัปตศก จุลศักราช 1177 พ.ศ.2385 ฯลฯ"
ข้อมูลพวกนี้ผมดูมาจากเวปของจังหวัดสมุทรปราการน่ะครับ แต่ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐบอกว่า พ.ศ.2358
ก็เลยไม่รู้ปีไหนกันแน่ องค์พระพิคเณศนี้ จะมีการสรงน้ำพระราชทาน ทุกปีครับ จะขอนำรูปพิธีคเณศจตุรถี
ที่ผมถ่ายไว้เมื่อปี 51 มาให้ชมกันครับ
เจ้าพิธีคือ พระครูสุริยาเทเวศร์ จาก สำนักพราหมณ์พระราชครูในสำนักพระราชวัง
พิธีบวงสรวงด้านในศาล
พระสังข์ที่เตรียมไว้สรงน้ำองค์พระพิคเณศ (เรียงเป็นคำว่า โอม และ รูปสวัสดิกะ )
องค์ท่านหลังจากที่ช่วยกัน นำเครื่องบูชาออกแล้ว
สรงน้ำครับ (เป็นคนละพิธีกับการสรงน้ำพระราชทาน)
ผูกสายยัญโญปวีต
อารตีไฟ
เสร็จพิธี โปรยดอกไม้
上一篇:2013.9月泰國3哥至沙馬公佛牌協會辦事與會長帕亞刊潘合照
下一篇:佛牌發料