2013-10-02 21:15:17THOKCHAS

菩多佛教文物2館N2-農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(2555佛牌比賽第1名)

 




1060602農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(2555佛牌比賽第1名)3.JPG






1060602農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(4.4x2.7x1.1)1.JPG






1060602農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(4.4x2.7x1.1)2.JPG






1060602農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(4.4x2.7x1.1)3.JPG






1060602農踏普里省瓦芒乓寺龍波嗆大師2497崇笛猴神哈魯曼(4.4x2.7x1.1)4.JPG


農踏普里省

瓦芒乓寺

龍波嗆大師

(2428~2500.享年72歲)

2497崇笛猴神哈魯曼佛牌

 佛曆2497年(西元1954年)

大師傳承神通第一高僧龍普肅及瓦芒農摳寺龍波斑大師門下

 佛牌經粉有加入龍普肅及龍波斑大師崇笛老牌經粉聖料 

目前泰國市價都要一萬泰銖起跳.

2555參加佛牌比賽.得到第1名

 

 

佛牌全功能

含雙麻花邊銀殼尺

高4.4公分.寬2.7公分.厚1.1公分.

*****************

以下是泰文資料.

有能力的藏家.請自行翻譯.




ประวัติหลวงพ่อแฉ่ง ศิลปัญญา วัดศรีรัตนาราม (บางพัง) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลวงพ่อแฉ่ง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. 2428 ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นบุตรของนายสิน นางขลิบ รัตนบุญสิน บรรพชาเมื่อ อายุ 12 ปี และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
หลวงพ่อแฉ่ง เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความสำคัญในอดีต ด้วยความที่มีอาคมขลัง มีพลังทางจิตแก่กล้ายิ่ง เป็นพระปฏิบัติเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้คงแก่เรียนจนทำให้ชื่อเสียงระบือไกล
หลวงพ่อแฉ่ง เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมขลังมาจากเกจิชื่อดังต่าง ๆ หลายรูปและได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชามาอย่างหมดใส้หมดพุง ทั้ง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (คลองด่าน) หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง คณาจารย์สาย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหลวงพ่อแฉ่งให้ความเคารพนับถือ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค จ.อยุธยา มากเป็นพิเศษ ในฐานะลูกศิษย์และสหายธรรมรุ่นน้อง จึงได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ๆ มาจากหลวงพ่อปานด้วย ซึ่งท่านได้นำมาพิมพ์แจกจ่ายญาติโยม ได้รับความนิยมเช่าบูชากันมาก
สมัยหลวงพ่อแฉ่งยังมีชีวิตอยู่ วัดบางพังในอดีตคึกคักกว่าวัดอื่น ๆ ในระแวกใกล้เคียง แต่ละวันมีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางมาจากถิ่นต่าง ๆ มาฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อแฉ่งจนรับไม่หวาดไหว บางคนก็มาขอวัตถุมงคล บางคนก็มารักษาโรค บางคนก็มาปรึกษาขอความช่วยเหลือสารพัด เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่าหลวงพ่อแฉ่งท่านช่วยได้

ผู้ที่ไปขอเรียนคาถาอาคม หลวงพ่อแฉ่งจะให้หัดนั่งสมถวิปัสนากรรมฐานก่อน เมื่อเห็นว่าพอไปได้ จึงจะให้รับนิสัยธรรมข้อหนึ่งที่หลวงพ่อจะอบรมสั่งสอนให้จำขึ้นใจ (เข้าใจว่าเป็นคุณธรรมประจำใจหรือธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง) จากนั้นจึงจะบอกตัวคาถาและเคล็ดวิชาต่าง ๆ ให้ การเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อแฉ่ง ท่านสอนยศิษย์ทั้งเรียนผูกและเรียนแก้ เพื่อป้องกันแก้ไขและช่วยเหลือคนที่มีทุกข์ถูกคุณไสยให้พ้นภัย เรียกว่าครบเครื่องเลยทีเดียว

หลวงพ่อแฉ่ง มรณภาพ วันที่ 26 ก.ค. 2500 รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา สังขารของท่าน สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฎกษัตริยาราม โปรดให้เคลื่อนไป พระราชทานเพลิงอย่างสมเกียรติ เมื่อ 11 พ.ค. 2501 ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม กรุงเทพฯ โดยในงานศพของหลวงพ่อแฉ่ง มีการปั้มเหรียญรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแจกเป็นที่ระลึกด้วย

ประวัติวัดศรีรัตนาราม (บางพัง)

วัดศรีรัตนาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันทั่วไปว่า “วัดบางพัง” ตั้งอยู่ เลขที่ 39 บ้านคลองบางพัง ซอยสวัสดี หมู่ที่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สังกัดมหานิกาย เป็นวัดโบราณสร้างครั้งสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวปี พ.ศ. 2305 ไม่ทราบนามผู้สร้างชัดเจน ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดบางพัง” ตามท้องที่ที่ตั้งไว้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี สาเหตุที่ชื่อวัดบางพังนั้นผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่า เพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะพื้นดินริมตลิ่งแถบบริเวณนั้นพังมากเป็นบริเวณกว้างมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว จึงได้เรียกกันว่าตลิ่งพังแล้วและกลายมาเป็นบางพังในที่สุด วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันมีทางรถยนต์ตัดเข้าถึงวัดทำให้การคมนาคมไปมาหาสู่กันสะดวกมากขึ้น

ข้อมูลเจ้าอาวาสวัดบางพังจากอดีต-ปัจจุบัน

รูปที่ 1 พระอธิการเจริญ

รูปที่ 2 หลวงพ่อแฉ่ง ศิลปัญญา

รูปที่ 3 พระอธิการประมวล ปวัฑฒโน

รูปที่ 4 พระอธิการอินทร์ อกตมโล เจ้าอาวาสปัจจุบัน


วัตถุมงคลของหลวงพ่อแฉ่ง

หลวงพ่อแฉ่ง อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพัง นับเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังผู้ทรงพุทธาคมรูปหนึ่งในอดีต ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลดัง ๆ เช่น พิธีที่วัดราชบพิธ พ.ศ. 2481 พิธีพุทธภิเษกพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ในการพุทธาภิเษกพระกริ่งในเจ้าคุณศรีฯ วัดสุทัศน์ จะต้องนิมนต์พระหลวงพ่อแฉ่งร่วมปลุกเสกทุกครั้ง

วัตถุมงคลหลวงพ่อแฉ่งมีมากมาย ทั้งพระเนื้อผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่าง ๆ มีหลายประเภททั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์สามเหรียญ เนื้อผง พระรอด ตะกรุด ผ้ายันต์ธง ทรายเสก พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พระประจำวัน นางกวัก พระพุทธกวัก สามเหลี่ยม พระสิวลีชนิดบูชา-คล้องคอ เนื้อหามีทั้ง ดิน ผงน้ำมัน ผงพุทธคุณ แต่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ คือ ชนิดผงน้ำมัน เพราะเนื้อหาดูง่าย เนื้อจัด หนึกนุ่ม ส่องแล้วสบายตา ราคาสบายใจไม่แพงมาก



แรงจูงใจในการจัดสร้าง บรรดาศิษย์และผู้ใกล้ชิดที่ศรัทธาพร้อมใจกันขอให้หลวงพ่อสร้างอิทธิวัตถุ เพื่อเป็นของที่ระลึกและคุ้มครองป้องกันภัย ประกอบกับในระยะนั้นสงครามมีท่าทีเกิดขึ้น ผู้คนเริ่มเสาะแสวงหาวัตถุมงคลไว้คุ้มกันตัว และเพื่อตอบแทนชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างถาวรวัตถุสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด หลวงพ่อแฉ่งได้สร้างวัตถุมงคลในปี พ.ศ.2484 แจกให้ศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธา



จำนวนจัดสร้าง วัตถุมงคลสร้างขึ้นมีจำนวนเท่าไร ไม่มีใครทราบ เพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้ เป็นการทยอยสร้างทยอยปลุกเสก พอสร้างได้จำนวนมากพอสมควรแล้วท่านก็จะทำพิธีปลุกเสกสักครั้งหนึ่ง เป็นการปลุกเสกเดี่ยว จากนั้นจึงนำมาแจกเสียคราวหนึ่ง จำนวนพระทั้งหมดสันนิษฐานกันว่าประมาณหนึ่งหมื่นองค์เศษ ๆ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น แจกฟรี ไม่มีการให้เช่าบูชา

ดีด้านไหน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์โจษขานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งโดดเด่นด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เป็นรองใคร นอกจากนี้ยังใช้เป็นพระหมอแบบพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ได้อีกด้วย

ลักษณะและสีเนื้อพระ พระเนื้อผงที่หลวงพ่อแฉ่งสร้างขึ้นเป็นเนื้อประเภทปูนปั้นไม่ได้เผาไฟ ส่วนผสมหลักคือปูนขาวจากเปลือกหอยและน้ำมันตังอิ๊ว นอกนั้นก็เป็นผงวิเศษ 5 ประการ คือ ผงอิธะเจ ผงปถะมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห นอกนั้นก็มีเกสรดอกไม้ที่ชื่อเป็นมงคลนาม ทรายเสก และข้าวสุก เป็นต้น กรรมวิธีใช้โขลกตำเนื้อพระและส่วนผสมตลอดจนการกรองผงมีความประณีตบรรจงมาก เนื้อละเอียดเนียนเข้ากันสนิท การผสมน้ำมันตังอิ๊วก็พอดี เนื้อพระแลดูนุ่มตาฉ่ำใส สีเหลืองเข้มกว่าสีของเนื้อพระกรุวัดคู้สลอดเล็กน้อย (กรณีไม่บรรจุกรุ) เรียกขานกันว่าเนื้อเทียนชัย เพราะสีของเนื้อพระแลดูคล้ายเทียนขี้ผึ้งสีเหลืองนั่นเอง แต่แลดูฉ่ำใส มีความซึ้งมากกว่าเทียน สามารถแลเห็นส่วนผสมภายในที่ลึกลงไปได้ด้วยแว่นขยาย

แยกพิมพ์ทรง พระเนื้อผงที่หลวงพ่อสร้างมีกี่แบบกี่พิมพ์ไม่มีใครตอบได้ ทางวัดก็ไม่เก็บข้อมูลไว้ ส่วนใหญ่ก็รู้เท่าที่ตัวเองมีอยู่ และหนังสือลงข้อมูลกันไว้ หากจะแยกย่อยออกไปจริง ๆ น่าจะมีมากกว่า 30 พิมพ์ แม้ว่าพิมพ์หลัก ๆ จะมีอยู่ประมาณ 10 พิมพ์ แต่ในพิมพ์หลัก ๆ นั้นก็ยังแยกย่อยออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น พิมพ์ทรงหนุมานไม่ถือพระขรรค์ ถือพระขรรค์ข้างซ้าย ถือพระขรรค์ข้างขวา มีครอบแก้ว ไม่มีครอบแก้ว เป็นต้น แต่จะหาผู้ที่เก็บรวบรวมได้ครบจริง ๆ ยังไม่เคยเห็น ยิ่งปัจจุบันเข้าสนามว่าหาของแท้ของท่านยากแล้ว ให้แท้และสวยยิ่งยากเป็นเท่า ๆ ตัว เพราะพระของท่าน เนื้อค่อนข้างเปราะ แตกหัก ชำรุดง่าย ผู้ที่มีควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก "มหาโพธิ์"


พระพิมพ์ต่าง ๆ จากซ้าย ขี่ไก่-ขี่ครุฑ-ขี่สิงห์-ขี่เสือ-ขี่หนุมาน มีทั้งผงพุทธคุณและเนื้อผงน้ำมัน

พิมพ์นางกวัก (มีทั้งผงพุทธคุณและเนื้อผงน้ำมัน)

พิมพ์นั่งฐานบัว (มีทั้งผงพุทธคุณและเนื้อผงน้ำมัน)

พิมพ์สมาธิ 2 ชั้น (มีทั้งผงพุทธคุณและเนื้อผงน้ำมัน)

พิมพ์แหวกม่าน (มีทั้งผงพุทธคุณและเนื้อผงน้ำมัน)


ภาพ ซ้าย : เป็นป้ายชื่อประตูทางเข้า ขวา : พระอุโบสถหลังใหม่วัดศรีรัตนาราม (บางพัง) ที่มา : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31

เจ้าอาวาสเท่าที่สืบทราบได้จำนวน 4 รูป คือ (ที่มา : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)

รูปที่ 1 พระอธิการเริญ
รูปที่ 2 หลวงพ่อแฉ่ง ศิลปัญญา
รูปที่ 3 พระอธิการประมวล ปวัฑฒโน
รูปที่ 4 พระอธิการอินทร์ อกตมโล เจ้าอาวาสปัจจุบัน (ปี31)
ประวัติหลวงพ่อแฉ่ง โดยสังเขป

หลวงพ่อแฉ่งท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก มีอาคมขลัง มีพลังทางจิตแก่กล้า เป็นพระปฏิบัติเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้คงแก่เรียน เป็นศิษย์หลายสายหลายสำนักด้วยกัน และเป็นศิษย์ในหลวงพ่อปานวัดบางนมโค จ.อยุธยาด้วย (ได้รับอิทธิพลพระพิมพ์ทรงสัตว์จากหลวงพ่อปาน) ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้จึงทำให้วัดบางพังในอดีตคึกคัก มีผู้คนเดินทางมาจากถิ่นใกล้และไกล มาฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อแฉ่งเป็นอันมาก บางคนก็มาขอวัตถุมงคล บางคนก็มารักษาโรค บางคนก็มาปรึกษาความและเรื่องราวร้อยแปด เพราะเขาเหล่านั้นเห็นว่าหลวงพ่อท่านช่วยได้ ผู้ที่ไปขอเรียนคาถาอาคม หลวงพ่อท่านจะให้ฝึกจิตบังคับใจเรื่องสมถวิปัสนากรรมฐานก่อน เมื่อเห็นว่าพอจะใช้ได้ไปไหว จึงจะให้นิสัยธรรมข้อหนึ่งที่หลวงพ่อมักจะอบรมสั่งสอน (เข้าใจว่าคุณธรรม) หลังจากนั้นจึงจะบอกตัวคาถาและเคล็ดวิชาต่าง ๆ ให้ การเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อนั้น ท่านมิใช่แต่เพียงให้ศิษย์เรียนผูกเท่านั้น ท่ายังให้ศิษย์เรียนแก้ด้วย ครบถ้วนกระบวนการ คือ เพื่อป้องกันแก้ไขคนที่มีทุกข์ถูกของถูกคุณให้พ้นภัย เป็นต้น

หลวงพ่อแฉ่ง มรณะภาพราว ปี2502 ศพของท่าน สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมกุฎกษัตริยาราม โปรดให้นำมาฌาปณกิจที่วัดมกุฎฯ และในงานศพของหลวงพ่อแฉ่งก็ได้แจกเหรียญรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเป็นของที่ ระลึกด้วย


พิมพ์ทรงไก่หางพวง ทั้งคู่จัดว่าเป็นพระที่สมบูรณ์มาก และนิยมที่สุดจากบรรดาพระชุดดังกล่าว (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)


พิมพ์ทรงราชสีห์ เป็นอีกพิมพ์ที่จัดว่าหายากในชุดนี้ - หาพระไม่ได้ชมภาพสวย ๆ ไปก่อนนะครับ (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)

การสร้างวัตถุมงคล

หลวงพ่อแฉ่งท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายสิ่งหลายอย่างด้วยกัน มีทั้งพระเนื้อผง พระเนื้อดินเป็นรูปพระรอดองค์เล็ก ๆ, ตะกรุด, ผ้ายันต์ธง และทรายเสก เป็นต้น แต่ในตอนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะพระเนื้อผงเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอยู่ทั่วไป

มูลเหตุในการจัดสร้าง บรรดาศิษย์และผู้ใกล้ชิดที่ศรัทธาในจริยวัตรของหลวงพ่อพร้อมใจกันขอให้หลวง พ่อสร้างอิทธิวัตถุ เพื่อเป็นของที่ระลึก และคุ้มครองป้องกันตน ประกอบกับในระยะนั้นมีเค้าของสงครามจะปะทุระเบิดขึ้น ผู้คนเริ่มเสาะแสวงหาวัตถุมงคลเอาไว้คุ้มกันตัว และเพื่อตอบแทนชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์สมทบทุนสร้างถาวรวัตถุสิ่ง ต่าง ๆ ภายในวัด หลวงพ่อแฉ่งได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นในปี พ.ศ.2484 แจกให้ศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธามาขอพระจากท่านเพื่อนำไปคุ้มครองป้องกันตัว


พิมพ์ทรงหนุมานถือพระขรรค์ และไม่ถือพระขรรค์ (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)
จำนวนในการจัดสร้าง วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างขึ้นมีจำนวนเท่าไร ไม่มีใครทราบ เพราะมิได้มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการทยอยสร้างทยอยปลุกเสก กล่าวคือพอสร้างได้จำนวนมากพอสมควรแล้วท่านก็จะทำพิธีปลุกเสกเสียคราวหนึ่ง เป็นการปลุกเสกเดี่ยว จากนั้นจึงนำมาแจกเสียคราวหนึ่ง จำนวนพระทั้งหมดที่สร้าง หลายท่านยืนยันว่าไม่ถึง 84,000 องค์ สันนิษฐานกันว่าประมาณหนึ่งหมื่นองค์เศษ ๆ เห็นจะได้ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้น แจกฟรี ไม่มีการเช่าบูชาเหมือนปัจจุบัน ส่วนใครจะศรัทธาบริจาคทรัพย์ทำบุญให้วัดจำนวนเท่าไหร่ เป็นเรื่องของศรัทธาและกำลังทรัพย์ของแต่ละท่าน

พระหลวงพ่อแฉ่งใช้ดีด้านไหน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสกนั้น มีประสบการณ์เป็นที่โจษขานไปทั่วตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือ ด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ ทางด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เบาเช่นกัน (ตรงนี้เป็นความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับพระเนื้อผงอยู่แล้ว ว่ากันว่าพระเนื้อผงส่วนใหญ่จะมีพุทธคุณด้านเมตตา) นอกจากนี้ยังใช้เป็นพระหมอแบบพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคได้อีกด้วย


ซ้าย : พิมพ์ทรงเสือ ขวา : พิมพ์ทรงครุฑ (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)
ลักษณะและสีของเนื้อพระ พระเนื้อผงที่หลวงพ่อแฉ่งสร้างขึ้นเป็นเนื้อประเภทปูนปั้นไม่ได้เผาไฟ ส่วนผสมหลักคือปูนขาวจากเปลือกหอยและน้ำมันตังอิ๊ว นอกนั้นก็เป็นผงวิเศษ 5 ประการ คือ ผงอิธะเจ ผงปถะมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห นอกนั้นก็มีเกสรดอกไม้ที่ชื่อเป็นมงคลนาม ทรายเสก และข้าวสุก เป็นต้น การโขลกตำเนื้อพระและส่วนผสมตลอดจนการกรองผงมีความประณีตบรรจงมาก เนื้อละเอียดเนียนเข้ากันสนิท การผสมน้ำมันตังอิ๊วก็พอดี เนื้อพระแลดูนุ่มตาฉ่ำใส สีเหลืองเข้มกว่าสีของเนื้อพระกรุวัดคู้สลอดเล็กน้อย (กรณีไม่บรรจุกรุ) เรียกขานกันว่าเนื้อเทียนชัย เพราะสีของเนื้อพระแลดูคล้ายเทียนขี้ผึ้งสีเหลืองนั่นเอง แต่แลดูฉ่ำใส มีความซึ้งมากกว่าเทียน สามารถแลเห็นส่วนผสมภายในที่ลึกลงไปได้ด้วยแว่นขยาย

การแยกพิมพ์ทรง พระเนื้อผงที่หลวงพ่อสร้างมีกี่แบบกี่พิมพ์ไม่มีใครตอบได้ ทางวัดก็ไม่มีเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ส่วนใหญ่ก็รู้เท่าที่ตัวเองมีอยู่ และหนังสือลงข้อมูลกันไว้ หากจะแยกย่อยออกไปจริง ๆ น่าจะมีมากกว่า 30 พิมพ์ แม้ว่าพิมพ์หลัก ๆ จะมีอยู่ประมาณ 10 พิมพ์ แต่ในพิมพ์หลัก ๆ นั้นก็ยังแยกย่อยออกไปอีก ยกตัวอย่างเช่น พิมพ์ทรงหนุมานไม่ถือพระขรรค์ ถือพระขรรค์ข้างซ้าย ถือพระขรรค์ข้างขวา มีครอบแก้ว ไม่มีครอบแก้ว เป็นต้น แต่จะหาผู้ที่เก็บรวบรวมได้ครบจริง ๆ ยังไม่เคยเห็น ยิ่งปัจจุบันเข้าสนามว่าหาของแท้ของท่านยากแล้ว ให้แท้และสวยยิ่งยากเป็นเท่า ๆ ตัว เพราะพระของท่านนั้น เนื้อค่อนข้างเปราะ กะเทาะ แตกหัก ชำรุดง่าย ผู้ที่มีเก็บต้องระมัดระวังดูแลรักษาเป็นอย่างดี


ซ้าย : พิมพ์สมาธิฐานสองชั้น ขวา : พิมพ์แหวกม่าน (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)


ซ้าย : พิมพ์นางกวัก ขวา : พิมพ์คะแนน (ที่มาภาพ : มหาโพธิ์ 15 ธ.ค. 31)

 

 18-10606-02155012